ความคืบหน้ากรณี หญิงสาวรายหนึ่งร้องเรียนผ่านสื่อให้ช่วยตามหาญาติของตัวเอง ประกอบด้วยน้าหลานรวม 5 คนหายออกจากบ้านในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยอ้างว่าถูกแฟนหนุ่มของ 1 ในผู้สูญหายลักพาตัวหายไป นานกว่า 2 เดือน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรียกคณะทำงานตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจฝ่ายสืบสวนจากในพื้นที่ท่าศาลา และตำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีมาประชุมถึงความคืบหน้าในคดีนี้
หลังใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบและรับฟังข้อมูลทั้งหมด ยืนยันได้ว่าคดีนี้ไม่ใช่การค้ามนุษย์หรือการอุ้มตัวไป แต่เป็นการพาเยาวชนไปเที่ยว หลังได้เงินจาการขายที่ดิน 400,000 บาท ส่วนสาเหตุที่พาเด็กไปนานกว่า 3 เดือน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงคำพูดจาก เว็บตรง true wallet
พบแล้ว! เบาะแส 5 ผู้สูญหายยังมีชีวิต ไม่ได้ถูกลักพาตัว
ยังไร้วี่แวว! 5 ชีวิตหายปริศนา หวั่นเป็นอันตราย
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นที่ อำเภอท่าศาลา และมีการพาไปร่วมงานศพที่อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ก่อนนำลงมาเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพ และพื้นที่อื่นๆ ทั้งนี้ตนเองอยากฝากถึง นางอุษา ที่มีศักดิ์เป็นป้าของเด็กๆ ขอให้เอาเด็กๆ มาคืนผู้ปกครอง ส่วนความผิดขณะนี้เบื้องต้นเข้าข่ายการพรากผู้เยาว์ แต่หากยังไม่นำเด็กมาคืน จะถูกดำเนินคดีหนักขึ้นกว่านี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นางอุษา สามารถนำเด็กมาคืนได้ที่ สน.ใกล้เคียง หรือ สน.ทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังได้สั่งการให้ ฝ่ายสืบสวนในคณะทำงาน ลงพื้นที่ติดตามตัวบุคคลทั้งหมดไปพร้อมกัน โดยยืนยันว่าหาก ตำรวจฝ่ายสืบสวนพบตัวเด็กก่อนที่จะมีการนำเด็กมาคืน ก็จะถูกดำเนินการทางคดีอย่างหนัก
สำหรับเบาะแสของทั้ง 5 คนที่ถูกพาไปในครั้งนี้ พบว่าล่าสุดปรากฏตัวในพื้นที่ กทม. แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด แต่ยืนยันได้ว่าขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่ และไม่ได้มีการถูกคุมขังหรือคุมตัวแต่อย่างใด
ส่วนที่มีการตั้งประเด็น ความขัดแย้งภายในครอบครัวของผู้เสียหาย หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอให้ได้ตัวเด็กทั้งหมดกลับมาก่อน จึงจะสามารถ ชี้แจงในรายละเอียดได้อีกครั้ง
ส่วนที่ตำรวจมีการจับกุมตัว นายนพดล แสนเมืองอินทร์ คนขับรถตู้ที่พากลุ่มบุคคลทั้ง 5 คน ไป เนื่องจากตำรวจในพื้นที่ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย รับแจ้งจากผู้เสียหายชาวจีนว่า โทรศัพท์มือถือได้ถูก 1 ในกลุ่มบุคคลทั้ง 5 คนนำไปจากห้องน้ำภายในปั๊มแห่งหนึ่ง ก็จะมีการตรวจสอบเลขทะเบียนรถยนต์และมีการไล่วงจรปิดไปจนพบว่ายังอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ใจ จึงมีการเชิญตัวมาตรวจสอบประวัติและพบว่าตัวนายนพดลมีหมายจับในคดีฉ้อโกง แต่ในขณะนั้นตำรวจไม่ได้ตรวจสอบตัว นายลมกรด หรือ แบงค์ ว่า มีคดีหรือมีหมายจับหรือไม่ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงตัวนายลมกรด มีคดีฉ้อโกง ธนาคารจำนวนมูลค่า 1.8 ล้านบาท หากตรวจสอบตั้งแต่แรกก็จะสามารถดำเนินการคงตัวและได้ตัวกลุ่มบุคคลมาตั้งแต่แรก เพราะในวันที่มีการเชิญตัวคนขับรถตู้ไปที่สถานีตำรวจภูธรในอำเภอแม่ใจ ตัวเด็กและบุคคลทั้งห้าก็อยู่บนรถที่สถานีตำรวจภูธรด้วยเช่นกัน