แนวโน้มของสินค้าเพื่อความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย (Beauty & Personal Care) เช่นเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก หัวน้ำหอม และน้ำหอม พบว่า เป็นสินค้าที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
ปี 2565 ตลาดค้าปลีกเครื่องสำอาง (Colour Cosmetics) ภายในประเทศ คาดว่าจะมีมูลค่า 811.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (25,953.6 ล้านบาท) ขยายตัว 12.1% จากปีก่อนหน้า
และปี 2566 คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 895.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (28,651.2 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 10.4 จากปีก่อนหน้า (ที่มา: Euromonitor International)
สำหรับตลาดต่างประเทศ สถิติการส่งออกของไทยในกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ในปี 2565 พบว่า ไทยมีการส่งออกมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,254.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (112,860.5 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 6.6จากปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกสำคัญ คือ
- ญี่ปุ่น (สัดส่วนมูลค่าส่งออก ร้อยละ 11)
- ฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 8.8) (3)
- เวียดนาม (ร้อยละ 7.1)
- ออสเตรเลีย (ร้อยละ 7.1)
- จีน (ร้อยละ 7.0)
โดย สามารถแบ่งสินค้าได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
- เครื่องสำอาง เครื่องหอม และสบู่ มีมูลค่าการส่งออก 2,384.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (82,736.9 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 4.9 จากปีก่อนหน้า เป็นสัดส่วนร้อยละ 73.3 ของมูลค่าการส่งออกกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ทั้งหมดของไทย
- วัตถุดิบเพื่อใช้ทำเครื่องสำอาง มีมูลค่าการส่งออก 870.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (30,123.7 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 11.4 จากปีก่อนหน้า เป็นสัดส่วนร้อยละ 26.7
สินค้าอะไร? ขายดีสุดนตลาดต่างประเทศ
สำหรับกลุ่มเครื่องสำอาง เครื่องหอม และสบู่ ที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก
- สิ่งปรุงแต่งสำหรับใช้กับผม (เช่นยาสระผม น้ำยาดัดยืด และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม)
- สิ่งปรุงแต่งที่ใช้แต่งหน้าหรือบำรุงผิว (เช่น เครื่องสำอาง ครีมและโลชั่นบำรุงผิว)
- สบู่
- สิ่งปรุงแต่งเพื่ออนามัยในช่องปากและฟัน
- สิ่งปรุงแต่งใช้โกนหนวด อาบน้ำ ดับกลิ่นตัว
5 อันดับตลาดที่เป็นที่นิยมของแรงงานไทยมากที่สุด หลังโควิด-19
ส่องเทรนด์ "บ้านผู้สูงอายุ" แบบไหนที่วัยเก๋ามองหาตอบโจทย์การอยู่อาศัย
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าตลาดสินค้าเพื่อความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายเป็นตลาดที่น่าสนใจและยังมีช่องว่างที่จะเติบโตอีกมาก ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิต และมีโรงงานที่รับจ้างผลิตให้แบรนด์ดังระดับสากล (OEM) นอกจากนี้ ไทยยังมีจุดเด่นด้านการมีวัตถุดิบสมุนไพร ซึ่งสามารถสกัดเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ผู้ผลิตและผู้ประกอบไทยต้องให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสินค้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม และการมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงการพัฒนาแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน และการใช้เทคโนโลยีสำหรับสื่อสารทางการตลาดเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้บริโภคคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง